Installation Zabbix Agent on Linux Systems

        Agent installation on Redhat  or CentOS

       Step.1 สำหรับท่านที่ยังไม่มี Source Zabbix ให้ทำการ ติดตั้งตัว Repository ก่อนดังนี้
     [root@zabbix ~]# yum install epel-release
     [root@zabbix ~]# rpm -ivh http://repo.zabbix.com/zabbix/3.2/rhel/7/x86_64/zabbix-release-3.2-1.el7.noarch.rpm
     [root@zabbix ~]# yum update -y

      Step.2 หากทำการติดตั้ง Repository เรียบร้อยแล้วให้ทำการติดตั้ง Zabbix Agent

       [root@zabbix ~]# yum install -y zabbix-agent
     

     หลังจากติดตั้ง Zabbix Agent เรียบร้อยแล้ว ให้ไปแก้ไข Config ของ Zabbix Agent เพื่อชี้ไปยัง Zabbix Server  เพื่อส่งข้อมูล
    [root@zabbix ~]# cd /etc/zabbix/
    ให้แก้ไขไฟล์ที่ชื่อ zabbix_agentd.conf

    [root@zabbix ~]#  vi zabbix_agentd.conf

   แก้ไขมี 3 จุด  คือ

Server = ใส่ IP Address ของ Zabbix Server

ServerActive = ใส่ IP Address ของ Zabbix Server

Hostname = ใส่ชื่อของ Zabbix Server

หลังจากนั้น ให้ บันทึกแล้วปิด

    เริ่ม Start Zabbix Agent 

     [root@zabbix ~]# systemctl start zabbix-agent

    เพื่อให้ Zabbix Agent ทำงานอัตโนมัติหากปิด หรือเปิดเครื่อง

     [root@zabbix ~]# systemctl enable zabbix-agent

เมื่อ Start Zabbix Agent แล้ว   

ขั้นตอนต่อไป ให้เปิด ฟังก์ชั้นที่  Zabbix Server 

ไปที่ Configuration ==>> Hosts ==Enable  ฟังชั่น ตรง Status โดยการคลิ๊ก Disabled เพื่อเปิดฟังก์ชั่น

อย่าลืมไปใส่ชื่อ Server ของ Zabbix ในหน้าของ Hosts ด้วยน่ะ

ผลลัพย์จะออกมาแบบนี้ 

Agent เริ่มทำงาน

Read More

Install Web Server and PHP7 on CentOS7

Step.1 : Install Web Server on CentOS7

หลังจากติดตั้ง CentOS7 เรียบร้อยแล้ว ให้ทำขั้นตอนดังนี้
[root@localhost~]# yum update -y

หลังจาก อัพเดตOS แล้ว   ให้ติดตั้ง Web Server ได้เลย
[root@localhost~]# yum install -y httpd

เมื่อติดตั้ง เรียบร้อย ให้ทำการ อนุญาติ Port80 and Service http , https

[root@localhost~]# firewall-cmd --permanent --add-port=80/tcp

[root@localhost~]# firewall-cmd --permanent --add-service=http

[root@localhost~]# firewall-cmd --permanent --add-service=https

[root@localhost~]# firewall-cmd --reload

[root@localhost~]# systemctl start httpd

[root@localhost~]#ifconfig 

เมื่อทราบ IP Address  แล้ว ให้เปิด Browser  แล้วพิมพ์ URL   

http://ตามด้วยหมายเลขIP Address เครื่อง 

หลังจากนั้นให้ Start Service ของเว็บไซต์ 

[root@localhost~]#systemctl start httpd

ปล.หากเกิด Error แบบนี้ 

ให้ทำการปิด selinux ก่อน ครับ  ให้ทำดังนี้ 

[root@localhost~]# vi /etc/sysconfig/selinux

ให้แก้ไข ตรง SELINUX=enforcing   ให้เปลี่ยนเป็น SELINUX=disabled

หลังจากนั้น บันทึกแล้วปิด

[root@localhost~]#reboot

---

Step2 : Install PHP7 on CentOS7

ติดตั้ง Epel and  Install PHP7

[root@localhost~]# yum install -y epel-release

[root@localhost~]# rpm -Uvh https://mirror.webtatic.com/yum/el7/webtatic-release.rpm

[root@localhost~]# yum update -y

[root@localhost~]# yum install -y php70w

[root@localhost~]# yum install -y php70w-opcache php70w-xml php70w-soap php70w-xmlrpc php70w-mbstring php70w-json php70w-gd php70w-mcrypt

ตรวจสอบ Version PHP

[root@localhost~]# php -v

[root@localhost~]# systemctl restart httpd

สร้างไฟล์ PHP เพื่อทดสอบ ว่า PHP สามารถทำงานได้หรือไม่

[root@localhost~]# vi /var/www/html/info.php

ให้ใส่ข้อความดังนี้ 

<?php 

phpinfo(); 

?>

แล้วบันทึก ปิด

ทดสอบการทำงานของ php

ไปที่ Browser  พิมพ์ 

http://ตามด้วย หมายเลขไอพี / ตามด้วยไฟล์ PHP ที่สร้าง

ตัวอย่าง http://172.201.119/info.php

ภาพแสดงถึงการทำงานของ Host และ PHP7 ได้สมบูรณ์

---

ในกรณี PHP ไม่ทำงาน

Read More

แจ้งเตือนเมื่อมีคนแอบเข้า Server เรา แจ้งมาที่ Line ( For Linux Server )

คู่มือสอนติดตั้งระบบแจ้งเตือนผ่านไลน์ เมื่อ มีบุคคล Remote ไปยัง Server ของเรา ได้
ผ่านระบบไลน์  ได้ทั้ง Line Group and Line Personal
ในนี้จะสอนกับระบบ Linux CentOS7

สำหรับท่านที่ยังไม่ได้มีบัญชี Line Notify ให้ไปสมัครได้ที่นี้
https://notify-bot.line.me  โดย Login ผ่าน Line Account  ที่ลงทะเบียนด้วย E-Mail เท่านั้น
หลังจากLogin แล้วจะได้ Line Token


====== Login Server by CentOS7 ===
[root@localhost ssh]# vi /root/.bash_profile
# .bash_profile

# Get the aliases and functions
if [ -f ~/.bashrc ]; then
        . ~/.bashrc
fi

# User specific environment and startup programs
curl -X POST -H 'Authorization: Bearer LINE-TOKENของเราครับ' -F 'message=ข้อความที่ต้องการให้ส่ง' https://notify-api.line.me/api/notify

PATH=$PATH:$HOME/bin
export PATH
:wq
[root@localhost ssh]#

Read More

สอนติดตั้ง Zabbix Agent on Windows

หลังจากติดตั้ง Zabbix Server เรียบร้อยแล้ว  ขั้นตอนต่อไปคงคงหนีไม่พ้นการเก็บข้อมูลจากเครื่อง Client เพื่อนำไปประมวลผลและMonitor ในปัจจุบัน คงหนี้ไม่พ้น ระบบปฏิบัติการWindows และ Linux
ในบทความนี้ขอนำเสนอวิธีการติดตั้งตัว Zabbix Agent  บนตัว Client

Step1 Download  Zabbix Agent for Windows
Download ที่นี่ สำหรับ Zabbix Server 4.2.1 
https://www.zabbix.com/download_agents

หากใช้ Zabbix Server เวอร์ชั่นอื่นก็สามารถดาวโหลดได้ที่ลิงค์นี้ https://www.zabbix.com/download_agents

Read More

เตือนคุณด้วย Line Alert ด้วยภาษา Python3 กับ ระบบ Zabbix

ในปัจจุบันคงไม่มีใครปฏิเสธว่า Line มีความจำกับชีวิตประจำวัน รองจาก Facebook
ฉนั้น หากเรานำ Line ซึ่ง Active กับผู้ใช้ในชีวิตประจำวัน มาใช้กับงานหรือธุรกิจคงจะเป็นการดี
เพราะบางระบบ

Step.1 Generat Token
https://notify-bot.line.me/my/

Login ด้วยอีเมล์ ที่Register กับ Line ( อีเมล์ที่ใช้เล่นLine ใน คอม )

คลิ๊ก ตรงโปรไฟล์ ==> เลือก หน้าบัญชี ==>

คลิ๊ก ==>> ออก Token

โปรดใส่ชื่อ Token (จะแสดงเมื่อมีการแจ้งเตือน) : ใส่ชื่อ Line ที่เตือน

 โปรดเลือกห้องแชทที่ต้องการส่งข้อความแจ้งเตือน : เลือกกลุ่ม หรือ บุคคลที่ต้องการแจ้ง

หลังจากนั้นกด ออก Token 

หากได้ Token ให้ คัดลอกเพื่อเตรียมไปใส่ใน Script

ปล. อย่าลืมแอดเป็นเพื่อกับ Line Notify  และเชิญเข้ากลุ่มที่ต้องการเตือนด้วย

Step.2 Install Module Python
#yum install -y python34-setuptools
#yum install -y python34-pip
#yum install -y python34-requests

Step.3 สร้างไฟล์ สคริ๊ปใช้คำสั่งนี้ในเครื่อง Zabbix Server 
# vi /usr/lib/zabbix/alertscripts/line_script.py

Step.4 วางสคริ๊ปนี้ ไว้ใน line_script.py

#!/usr/bin/python3
import requests
import json
import urllib.parse
import sys
msgzbx = sys.argv
LINE_ACCESS_TOKEN="ใส่ Token ที่ท่านได้ Generat ไว้ที่นี่"
url = "https://notify-api.line.me/api/notify"
message = msgzbx[2]+msgzbx[3]
msg = urllib.parse.urlencode({"message":message})
LINE_HEADERS = {'Content-Type':'application/x-www-form-urlencoded',"Authorization":"Bearer "+LINE_ACCESS_TOKEN}
session = requests.Session()
a=session.post(url, headers=LINE_HEADERS, data=msg)
print(a.text)


Step.5 ทดสอบ Script Python3 ว่าสามารถใช้งานได้ใหม ใช้คำสั่งนี้ 
# cd /usr/lib/zabbix/alertscripts/
/usr/lib/zabbix/alertscripts# python3 สคริ๊ปที่ได้เขียน  ข้อความ1 ข้อความ2 ข้อความ3
/usr/lib/zabbix/alertscripts# python3 line_script.py test1 test2  test3

Step.6 สร้างไฟล์ Media ใหม่ขึ้นมาตามใจชอบ ตัวอย่างเช่น LINE_Alert

1. Administrattion

2. Media types

3. Create media type

Name : ชื่อMedia ชื่ออะไรก็ได้

Type :  Script

Script name : ชื่อ สคริ๊ป ที่ได้สร้างไว้ก่อนหน้านี้

Script parameters : {ALERT.SENDTO}

                               {ALERT.SUBJECT}

                               {ALERT.MESSAGE}

Enabled : ติ๊กถูก

Step.7 เริ่มตั้งค่าให้ Line Notify ทำงาน ตามเงื่อนไข
1.  Configuration ==> Action

Name : ชื่อของ Action
Type of calculation : เงื่อนไขการทำงาน
Conditions : กฏของการทำงาน
New condition : เลือกเงื่อนไข หลังจากนั้นให้กด Add
Enabled : ติ๊กถูกเพื่อเปิดการใช้งาน

Default subject : ชื่อหัวข้อ ข้อความ

ตัวอย่าง 

{TRIGGER.STATUS}: {TRIGGER.NAME}

Default message : ข้อความที่จะแจ้ง

ตัวอย่าง

HOST : {HOST.HOST}
IP Adress : {HOST.CONN}
Trigger: {TRIGGER.NAME}
Trigger status: {TRIGGER.STATUS}
Trigger severity: {TRIGGER.SEVERITY}


Original event ID: {EVENT.ID}

Operation type : send message
Send to User groups : ส่งเป็นกลุ่ม
Send to Users : ส่งเป็นรายคน
Send only to : เลือก Media Line ที่ได้สร้างก่อนหน้านี้ 
หลังจากนั้น ให้กด Add  และ Update 

Action ==>> Recovery operations

จะแจ้งเตือนเมื่อระบบทำงานได้ปรกติ

Default subject : ชื่อหัวข้อ ข้อความ

ตัวอย่าง 

{TRIGGER.STATUS}: {TRIGGER.NAME}

Default message : ข้อความที่จะแจ้ง

ตัวอย่าง

HOST : {HOST.HOST}
IP Adress : {HOST.CONN}
Trigger: {TRIGGER.NAME}
Trigger status: {TRIGGER.STATUS}
Trigger severity: {TRIGGER.SEVERITY}


Original event ID: {EVENT.ID}

Operations : ให้ส่งไปที่ใครบ้าง

หลังจากนั้นก็กด Update

ลิงค์ Macro สำหรับเลือกคำสั่ง 
https://www.zabbix.com/documentation/3.2/manual/appendix/macros/supported_by_location

เรียบร้อย


ติดต่อหรือแนะนำ ได้ที่นี่
E-Mail : Abdulloh.eg@gmail.com
Line : Muslimeen

Read More

สอนติดตั้ง Zabbix 3.2.1 ( Monitoring System ) on CentOS7

ระบบ Zabbix เป็นระบบตรวจสอบการทำงาน หรือ เรียกว่า Monitoring System
ซึ่งเป็นแบบ Open Source ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่าย ในการติดตั้ง และใช้งาน
ส่วนรายละเอียดอื่นๆสามารถดูได้ที่เว็บไซต์นี้ http://www.zabbix.com/

วันนี้เรามาดูการติดตั้ง Zabbix บน CentOS7 กัน ครับ

ก่อนติดตั้ง ควร Update CentOS7 ก่อน  ด้วยคำสั่ง 
[root@zabbix ~]# yum -y update
[root@zabbix ~]# reboot

ขั้นตอนที่.1  เปิดฟังก์ชั่น EPEL และ Zabbix Reposity   ด้วยคำสั่งนี้
[root@zabbix ~]# yum install epel-release
[root@zabbix ~]# rpm -ivh http://repo.zabbix.com/zabbix/3.2/rhel/7/x86_64/zabbix-release-3.2-1.el7.noarch.rpm

ขั้นตอนที่.2 ติดตั้งฐานข้อมูล และ Zabbix Server และ Packet Web
[root@zabbix ~]# yum -y install zabbix-server-mysql zabbix-web-mysql mysql mariadb-server httpd php

ขั้นตอนที่.3 ตั้งค่า ฐานข้อมูล 
[root@zabbix ~]# systemctl start mariadb
[root@zabbix ~]# systemctl enable mariadb
ln -s '/usr/lib/systemd/system/mariadb.service' '/etc/systemd/system/multi-user.target.wants/mariadb.service'

[root@zabbix ~]# mysql_secure_installation

ต้องการตั้งค่า รหัสผ่าน Root ของฐานข้อมูล ให้กด Enter ==> y

ขั้นตอนที่.4 เข้าระบบฐานข้อมูล และ สร้าง User และ สร้างฐานข้อมูล

เข้าสู่ระบบฐานข้อมูล
[root@zabbix ~]# mysql -u root -p
Enter password:

เริ่มสร้างฐานข้อมูล
MariaDB [(none)]> create database zabbix_db;
Query OK, 1 row affected (0.00 sec)

สร้าง User สำหรับใช้งานฐานข้อมูล และ ให้สิทธิ์
MariaDB [(none)]> grant all privileges on zabbix_db.* to zabbix_user@localhost identified by 'รหัสผ่านของ User';
Query OK, 0 rows affected (0.00 sec)

MariaDB [(none)]> flush privileges;
Query OK, 0 rows affected (0.00 sec)
MariaDB [(none)]> exit

ขั้นตอนที่.5  นำเข้าข้อมูล สู่ฐานข้อมูล

[root@zabbix ~]#cd /usr/share/doc/zabbix-server-mysql-3.2.3

[root@zabbix zabbix-server-mysql-3.2.3]# gunzip create.sql.gz

ใส่ รหัสผ่านของ Root Database 

[root@zabbix zabbix-server-mysql-3.2.3]# mysql -u root -p zabbix_db < create.sql

Enter password:

ขั้นตอนที่.6 ตั้งค่า บน Zabbix Server 
ให้ ไปที่
[root@zabbix ~]#cd /etc/zabbix/
[root@zabbix ~]#vi zabbix_server.conf

...................................
DBHost=localhost
DBName=ชื่อฐานข้อมูล
DBUser=ชื่อUserของฐานข้อมูล
DBPassword=รหัสผ่าน
...................................

หลังจากนั้น ให้ บันทึกและปิด

ขั้นตอนที่.7 แก้ไขค่าใน PHP ที่ /etc/php.ini
แล้วปรับให้เหมือนด้านล่าง
[root@zabbix ~]# vi /etc/php.ini
................................
max_execution_time = 600
max_input_time = 600
memory_limit = 256M
post_max_size = 32M
upload_max_filesize = 16M
date.timezone = Asia/Bangkok
...............................

ขั้นตอนที.8 เปิดให้ Firewallอนุญาติ โดยการเปิด Port

[root@zabbix ~]# firewall-cmd --permanent --add-port=10050/tcp
success
[root@zabbix ~]# firewall-cmd --permanent --add-port=10051/tcp
success
[root@zabbix ~]# firewall-cmd --permanent --add-port=80/tcp
success
[root@zabbix ~]# firewall-cmd --reload
success
[root@zabbix ~]# systemctl restart firewalld

ขั้นตอนที่.9 สร้างกฏใน SeLinux
[root@zabbix ~]# setsebool -P httpd_can_connect_zabbix=1
[root@zabbix ~]# setsebool -P zabbix_can_network=1
[root@zabbix ~]#reboot
วิธีเช็คว่า zabbix_can_network เปิดหรือยัง   ใช้คำสั่งนี้ 
[root@zabbix ~]# getsebool -a | grep zabbix


ขั้นตอนที่.10  Start Service Zabbix and HTTP   service
[root@zabbix ~]# systemctl start zabbix-server
[root@zabbix ~]# systemctl enable zabbix-server
ln -s '/usr/lib/systemd/system/zabbix-server.service' '/etc/systemd/system/multi-user.target.wants/zabbix-server.service'
[root@zabbix ~]#
[root@zabbix ~]# systemctl start httpd
[root@zabbix ~]# systemctl enable httpd
ln -s '/usr/lib/systemd/system/httpd.service' '/etc/systemd/system/multi-user.target.wants/httpd.service'
[root@zabbix ~]#

ขั้นตอนที่ 11  เริ่มติดตั้ง Zabbix
ให้เข้าไปที่ http://ตามด้วย IP Zabbix /zabbix

Next

Next

Add User Password Database 

รายละเอียด ของการตั้งค่า

การติดตั้ง เสร็จสมบูรณ์  สามารถกด Finish เพื่อเข้าสู่ระบบครั้งแรก

เข้าระบบ ครั้งแรก  User & Password ครั้งแรก

User : Admin

Password : zabbix

หน้าตา Zabbix Server 

Memo: หากมีข้อความ Error : zabbix server is not running the information displayed may not be current

แก้ไข โดยทำการปิด Selinux 

วิธีดังนี้ 

[root@zabbix ~]#vi /etc/sysconfig/selinux

แก้ไขตรง  “SELINUX=enforcing” to “SELINUX=disabled” หลังจากนั้น ให้ บันทึกแล้ว Restart เครื่อง1 ครั้ง

ติดต่อหรือแนะนำ ได้ที่นี่ 
E-Mail : Abdulloh.eg@gmail.com
Line : Muslimeen

Read More

สอน Install FreeRadius on CentOS6.8

Pending.....

Read More